.......นับตั้งแต่สิ้นสุดการปกครองด้วยระบบกษัตริย์(สุลต่าน)แห่งรัฐมลายู เมื่อ ๑๙๐๒ ชาวปัตฏอนี ต้องตกอยู่ในสภาพถูกบังคับและอ่อนแอลง เกิดความวุ่นวายขึ้นในภาคใต้ระหว่างปี ๑๙๑๐ - ๑๙๒๓ นอกจากนั้นภายใต้การบริหารราชการในสมัยของจอมพล ป.พิบูลย์สงคราม ระหว่างปี ๑๙๓๙ - ๑๙๔๔ ซึ่งเป็นนโยบายผสมกลมกลืนทางวัฒนธรรม หรือนโยบายรัฐนิยม (Assimilation)
.......ประชาชนชาวมลายูปัตฏอนี เริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกครั้งเมื่อรัฐบาลไทยภายใต้การนำของ จอมพล ป.พิบูลย์สงคราม เข้าข้างฝ่ายญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ ๒ อิทธิพลของอังกฤษในอินเดียที่สนับสนุนการปลดปล่อยประเทศหรือดินแดนต่างๆในภูมิภาคที่ถูกครอบครองบนพื้นฐานหลักการที่มีสิทธิที่จะกำหนดโชคชะตาชีวิตของตนเอง ( Self Determination) อย่างไรก็ตามจุดยืนของอังกฤษต่อสยามประเทศได้เปลี่ยนแปลงไปหลังจากที่สงครามเอเชียมหาบูรพาได้สิ้นสุดลง ผลประโยชน์ของอังกฤษในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีผลทำให้อังกฤษต้องเปลี่ยนท่าทีให้การสนับสนุนต่อรัฐบาลสยามประเทศเพื่อต่อสู้กับคอมมิวนิตส์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นการลุกขึ้นของคอมมิวนิตส์ในภูมิภาคนี้ราวปี ๑๙๔๘ จึงถือเป็นเงื่อนไขประการสำคัญอีกประเด็นหนึ่งซึ่งดับความหวังของประชาชนชาวปัตฏอนีที่จะเป็นอิสระจากสยามประเทศได้ เริ่มอ่อนแอลง การต่อสู้ที่สำคัญของชาวมลายูปัตฏอนี โดยการนำของ Tengku Mahmood Mahyideen และ นายฮัจยีสุหลง ราวปี ๑๙๖๐ มีองค์กรเพื่อการปลดปล่อยหลายองค์กรเกิดขึ้นเพื่อต่อสู้ในความเป็นเอกราชของปัตฏอนี มีการต่อสู้ด้วยกองกำลังติดอาวุธ แต่การต่อสู้ดังกล่าวยังคงไม่ประสบผลสำเร็จดังที่ตั้งใจไว้ได้
กิตติพันธ์ กุลศิริปัญโญ
บทความที่บันทึกอยู่ในบล็อกนี้เป็นบทความที่ผู้บันทึกมีความสนใจเป็นพิเศษ บวกกับความคิดเห็นส่วนตัวอีกเล็กน้อย ซึ่งไม่มีข้อผูกพันต่อหน่วยงาน หรือองค์การใดๆ ทั้งสิ้น ในเรื่อง เงากระบี่ใต้อักษร เป็นงานเขียนของ พ่อหมูอ้วน bigpigdaddy ผู้ใช้นามปากกาว่า "ลี้เซี่ยวฮวง"เขียนไว้ดีมากอ่านแล้วรู้สึกชอบ แต่แกนำมาปะไว้ไม่เป็นที่เป็นทางคนที่ติดตามไม่เป็นอาจจะปวดหัวได้ จึงนำมารวมไว้ที่นี่แต่เสียดายสามารถหามาได้เพียง ๑๓ บท ใครสนใจก็หาซื้อติดตามด้วยนะครับ...... จอมมารขอชื่นชมในความสามารถครับผม
วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
ข้อมูลชาวโรฮิงญา จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

โรฮิงยา หรือ โรฮิงญา เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่นับถือศาสนาอิสลามในประเทศพม่า อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของพม่า (สมัยโบราณ มีชื่อว่า รัฐอะระกัน)
ชาวโรฮิงยามีถิ่นฐานอยู่ในบริเวณรัฐอะระกัน มาตั้งแต่ในคริสต์ศตวรรษที่ 7 ในอดีตบริเวณนี้เป็นถิ่นฐานของชาวมุสลิมอาหรับที่เดินทางค้าขายมาตั้งแต่โบราณ
ชาวโรฮิงยามีลักษณะทางกายภาพคล้ายคลึงกับชาวเอเชียใต้ โดยเฉพาะชาวเบงกอล บางส่วนสืบเชื้อสายมาจากชาวอาหรับ เปอร์เซีย และปาทาน ที่อพยพมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโมกุล
ในปี พ.ศ. 2521 ชาวโรฮิงยาต้องตกอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลทหารพม่า ชาวโรฮิงยาถูกปฏิเสธที่จะได้รับสัญชาติพม่า ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างหนัก องค์การนิรโทษกรรมสากลประมาณการว่า มีชาวโรฮิงยาอพยพออกนอกประเทศไปยังบังคลาเทศกว่า 200,000 คน
ภาษาโรฮิงยา
ภาษาโรฮิงยาเป็นภาษาที่พูดโดยชาวมุสลิมโรฮิงยาในรัฐยะไข่ ประเทศพม่า ใกล้คียงกับภาษาจิตตะกองในบังกลาเทศ มีคำยืมจากภาษาอูรดู ภาษาเบงกาลี ภาษาเปอร์เซีย ภาษาอาหรับ ภาษาพม่า และภาษาอังกฤษมาก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)